“ทุกคนอย่าขยับ เงินเป็นของรัฐ แต่ชีวิตเป็นของคุณ” ทุกคนนอนอย่างสงบบนพื้น ไม่มีใครเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องเงินของรัฐ เราเรียกสิ่งนี้ว่า “เทคนิคการเปลี่ยนแนวคิด” บิดเบือนนิดเดียวความคิดเราก็เปลี่ยนไปไกลแล้ว
————————————————-
ผู้หญิงคนนึงนอนอยู่บนโต๊ะและกำลังจะกรี๊ด ทันใดนั้นโจรตะโกนใส่ผู้หญิงว่า “เรามีวัฒนธรรม ผมมาปล้นแบ๊งค์ ไม่ได้มาข่มขืนคุณ!!” เราเรียกสิ่งนี้ว่า “การเป็นมืออาชีพ” ตั้งมั่นในเป้าหมายอย่างเดียวไม่ว่อกแว่ก
————————————————-
เมื่อโจรกลับถึงฐานลับ โจรวัยรุ่นที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท MBA บอกกับรุ่นพี่โจรว่า “รุ่นพี่ เรามานับเงินกันว่าได้มาเท่าไหร่” แต่รุ่นพี่โจรที่จบเพียงชั้นประถมกล่าวว่า “แกนี่มันโง่มากเลย เงินตั้งเยอะตั้งแนะ จะนับยังไง คืนนี้ทีวีจะบอกเองแหล่ะว่าเราได้มาเท่าไหร่!!” เราเรียกสิ่งนี้ว่า “ประสบการณ์” ซึ่งในปัจจุบันประสบการณ์มีค่ามากกว่าใบปริญญามากมายนัก
เมื่อโจรกลับไปแล้ว ผู้จัดการธนาคารสั่งให้รองผู้จัดการโทรหาตำรวจที่เบอร์ 191 แต่รองผู้จัดการธนาคารกลับค้านว่า “เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นๆ โจรเอาเงินไปเท่าไหร่ เรามานับกันก่อน แล้วบอกตำรวจว่าโจรเอาไปมากกว่านั้นอีก 5 เท่า” เราเรียกสิ่งนี้่ว่า “ว่ายตามน้ำ” หรือการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส
————————————————-
ผู้จัดการกล่าวว่า “นั่นสิ จริงๆแล้วถ้ามีโจรมาปล้นธนาคารทุกเดือนก็ดีสินะ” เราเรียกสิ่งนี้ว่า “การฆ่าเวลาเล่นๆ” ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าความสุขของเราอีกแล้ว
————————————————-
วันถัดมา ทีวีทุกช่องออกข่าวกันว่ามีโจรปล้นธนาคาร 100 ล้านบาท แต่ว่าโจรที่ปล้นไปนับแล้วนับอีก ไม่ว่าจะนับกี่รอบ ก็นับได้แค่ 20 ล้านบาทเท่านั้น โจรโกรธมากแล้วพูดว่า “เราเสี่ยงตายและปล้นธนาคารออกมาได้แค่ 20 ล้านบาท แต่เจ้าผู้จัดการธนาคารแค่มันหัวไวนิดเดียว มันทำเงินได้ถึง 80 ล้านบาทเลย การศึกษามีดีอย่างนี้นี่เอง” เราเรียกสิ่งนี้ว่า “ความรู้มีค่ามากกว่าทองคำ”
————————————————-
ผู้จัดการธนาคารยิ้มร่าอย่างแรง เพราะว่าอยู่ดีๆเขาก็มีเงินเพิ่มขึ้นถึง 80 ล้านบาท โดยที่เป็นความผิดของโจรปล้นธนาคาร เราเรียกสิ่งนี้ว่า “โคตรโกง” เซียนเหนือเซียน แต่ไม่ใช่ในสิ่งดี
ที่มา: http://pantip.com/topic/30480573
 
Top